บันทึก อนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2556
ครั้งที่ 4 เวลาเรียน 08.30 - 12.20 น.
วันนี้อาจารย์ให้แต่ละกลุ่ม ออกไปนำเสนองานกลุ่ม ของตัวเอง โดยกลุ่มดิฉัน ได้ออกไปนำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง พัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กอายุ 4-6 ปี โดยมีเนื้อหาดังนี้
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์
เพียเจท์ (Jean Piaget) นักจิตวิทยาชาวสวิส ความคิดเห็นของเพียเจท์เกี่ยวกับพัฒนาการทางสติปัญญา คือการเรียนรู้ของเด็กเกิดจากการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
ถ้าเด็กมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมมากๆ ย่อมทำให้เกิดการเรียนรู้มากทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์ แบ่งได้ 4 ขั้น ดังนี้
1.1ขั้นการใช้ประสาทสัมผัส (Sensori Motor Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี ในขั้นนี้เด็กจะรู้จักใช้ประสาทสัมผัสทางปาก หู และตาต่อสภาพแวดล้อมรอบๆตัว
1.2)
ขั้นพัฒนาความคิดรวบยอด (Pre-operational Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี เป็นขั้นที่เด็กเริ่มเรียนรู้ภาษาพูดและเข้าใจเครื่องหมายต่างๆหรือเข้าใจสภาพแวดล้อมของสัญลักษณ์ต่างๆ
1.3) ขั้นเรียนรู้รูปธรรม (Concrete Operation Stage)
ขั้นนี้จะเริ่มจากอายุ 7-11 ปี ในช่วงอายุดังกล่าว
เด็กจะสามารถใช้เหตุผลกับสิ่งที่แลเห็นและมองความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
1.4)
ขั้นสิ่งที่เป็นนามธรรม (Formal Oerational Stage) ขั้นนี้จะเริ่มจากอายุ 11-15 ปี เป็นช่วงที่เด็กจะเข้าใจ
และใช้เหตุผลและการทดลองได้อย่างมีระบบและเรียนรู้เกี่ยวกับนามธรรมได้
บรูเนอร์
เกิดในเมืองนิวยอร์ค ในปี ค.ศ. 1915 เป็นนักการศึกษา
และนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน
ซึ่งผลงานส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผลงานของเปียเจต์
บรูเนอร์มีความสนใจในเรื่องพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็ก บรูเนอร์มีความเชื่อว่า “
การเรียนรู้เป็นกระบวนการทางสังคมที่ผู้เรียนจะต้องลงมือปฏิบัติ
และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองทั้งนี้โดยมีพื้นฐานอยู่บนประสบการณ์หรือความรู้เดิม ”
ขั้นที่1
ขั้นการเรียนรู้ด้วยการกระทำEnactivestage (แรกเกิด – 2 ขวบ ) ในวัยนี้
เด็กจะมีการพัฒนาการทางสติปัญญา โดยใช้การกระทำเป็นการเรียนรู้ หรือเรียกว่า Enactive
mode เด็กจะใช้การสัมผัส เช่น จับต้องด้วยมือ ผลัก ดึง
สิ่งที่สำคัญเด็กจะต้องลงมือกระโดดด้วยตนเอง เช่น การเลียนแบบ
หรือการลงมือกระทำกับวัตถุสิ่งของ ต่างกับผู้ใหญ่ ที่จะใช้ทักษะที่ซับซ้อน เช่น
ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เป็นต้น เป็นขั้นที่เปรียบได้กับได้กับขั้นประสาทสัมผัส
และการเคลื่อนไหวของเพียเจต์ เป็นขั้นที่เด็กจะเรียนรู้ด้วยการกระทำ
( learning by doing ) มากที่สุด
ขั้นที่2 ขั้นการเรียนรู้ด้วยภาพและจินตนาการ Iconic Stage เปรียบได้กับขั้นความคิดก่อนการเกิดการปฏิบัติการของเพียเจต์
ในวัยนี้เด็กจะเกี่ยวข้องกับความจริงมากขึ้น
และเกิดความคิดจากการรับรู้เป็นส่วนใหญ่
อาจมีจิตนาการบ้างแต่ยังไม่สามารถคิดได้ลึกซึ้งเหมือนขั้นปฏิบัติการคิดแบบรูปธรรมของเพียเจต์
ขั้นที่2 ขั้นการเรียนรู้ด้วยภาพและจินตนาการ Iconic
stage ในพัฒนาทางขั้นนี้ จะเป็นการใช้ความคิด
เด็กสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากการมองเห็น การสัมผัส โดยการนึกมโนภาพ
การสร้างจินตนาการ พัฒนาการนี้จะเพิ่มขึ้นตามอายุของเด็ก
ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งสร้างจินตนาการได้มากขึ้น การเรียนรู้ในขั้นนี้เรียกว่า Iconic
mode เด็กจะสามารถเรียนรู้โดยการใช้ภาพแทนการสัมผัสของจริง
บรูเนอร์ได้เสนอแนะ ให้นำโสตทัศนวัสดุมาใช้ในการสอน เช่น บัตรคำ ภาพนิ่ง
เพื่อที่จะช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็ก
ขั้นที่3 ขั้นการเรียนรู้ด้วยสัญลักษณ์ Symbolic
Stage
เป็นขั้นพัฒนาการสูงสุดของบูเนอร์
เปรียบได้กับขั้นปฏิบัติการคิดแบบรูปธรรมของเพียเจท์
เป็นพัฒนาการที่อาจมาจากขั้นการรับรู้ภาพและจินตนาการ
เด็กจะสามารถเข้าใจความสำคัญของสิ่งของสามารถเกิดความคิดรวบยอดในสิ่งต่างๆที่ไม่ซับซ้อนได้
ในพัฒนาการทางขั้นนี้
บรูเนอร์ถือว่าเป็นการพัฒนาการขั้นสูงสุดของความรู้ความเข้าใจ เช่น
การคิดเชิงเหตุผล หรือการแก้ปัญหา วิธีการเรียนรู้ขั้นนี้เรียกว่า Symbolic mode ซึ่งผู้เรียนจะใช้ในการเรียนได้เมื่อมีความเข้าใจในสิ่งที่เป็นนามธรรม
เด็กอายุ ๔ ปี
พัฒนาการด้านสติปัญญา
-จำแนกสิ่งต่างๆ ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ ได้
-บอกชื่อและนามสกุลของตนเองได้
-พยายามแก้ปัญหาด้วยตนเองหลังจากได้รับคำชี้แนะ
-สนทนาโต้ตอบ / เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง
-สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
-รู้จักใช้คำถาม ทำไม?
เด็กอายุ ๕ ปี
พัฒนาการด้านสติปัญญา
-บอกความแตกต่างของกลิ่น สี เสียง รส รูปร่าง จำแนก และ
จัดหมวดหมู่สิ่งของได้
-บอกชื่อ นามสกุล และอายุของตนเองได้
-พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง
-สนทนาโต้ตอบ / เล่าเป็นเรื่องราวได้
-สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นและแปลกใหม่
-รู้จักใช้คำถาม ทำไม? อย่างไร?
-เริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม
-นับปากเปล่าได้ถึง ๒๐
อายุ
6 ปี
- เด็กวัยนี้สามารถมองเห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งของได้
-เด็กในวัยนี้เป็นวัยที่มีความตั้งใจทีละอย่าง
หรือยังไม่มีความสามารถที่จะพิจารณา
หลาย ๆ อย่างผสม ๆ กัน
- เด็กวัยนี้ยังคิดถึงแต่เรื่องปัจจุบัน
คิดถึงแต่เรื่องที่ตนเองพัวพันอยู่ด้วย ระยะของความสนใจจะสั้น
สนใจการทำกิจกรรมต่างๆ
- เด็กจะกระตือรือร้นทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจ
แต่เมื่อหมดความสนใจจะเลิกทันที
โดยไม่คำนึงว่างานจะเสร็จหรือไม่
- เด็กวัยนี้สามารถที่จะวาดภาพพจน์ในใจได้
- เด็กวัยอนุบาลเป็นวัยที่ใช้สัญลักษณ์ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น